6/12/58

คนเหงาเล่าหนัง 2




Birdman
มันตลกนะ แต่มันไม่ใช่หนังตลกและก็ไม่ได้ฮาแบบดูตลกคาเฟ่แต่ผมขำเล็กใหญ่สลับกันไป กับหลายๆฉากในหนังเรื่องนี้ มันเป็นหนังที่เอาความจริงมาล้อเล่น เอามาเสียดสีอย่างแสบร้อนเผ็ดมันส์เช่น ตอนที่คนดูออกมาแล้วว่า องค์1 หวังทำได้ไม่เลว องค์ 2 น่าจะดีนะ ช็อตนี้มันเสียดสีหนังตัวเองไปในตัวเพราะครึ่งแรกของเรื่องผมให้ นอร์ตั้น เล่นได้ทรงพลัง และครึ่งหลังคือ คีตั้น ล้วนๆ หนังตะบันไล่กัดดะตั้งแต่ นายทุน โปรดิวซ์ ที่ต้องการกำไร จะทำหนัง ภาคต่อ Super Hero อะไที่มันขายได้ นักแสดง ที่เล่นหนังตลาด ทำเงินไม่ใช่นักแสดงแท้จริงแต่ต้องการเป็นจุดสนใจของผู้คนโดยการเป็น Net Idol เซเลบซะมากกว่า ยอมทำศัลยกรรมไม่ยอมแก่ นักแสดงบางคนที่เอาตัวเองเป็นหลักอินกับบทสูงจนลืมคนอื่นๆในกองบนพื้นฐาน ความเป็นจริง พวก EGOหนักจนไม่สามารถมีความสุขได้
หนังลามมากัดถึง นักวิจารณ์ ที่ชี้ชัดว่าหนังห่วยจ้องแต่จะเขียนบทวิจารณ์ทำลายหนังแต่กลับไม่ศึกษาหา ข้อมูลอย่างถ่องแท้ให้เข้าใจพอไม่เข้าใจก็ไปบอกด่าหนังเค้าว่า ห่วย คนดูประเภทที่ทีสนใจแต่ EFX ความรุนแรง เลือดกระสุน แต่กลับไม่สนใจ 'ศิลปะ' ของภาพเคลื่อนไหวจริงๆ ออกแนวตอน Cabin In The Wood กัด หรือ คนดูอีกประเภทที่บ้าศิลปะเกินเหตุหนังไทยไม่ดูหนังไม่แนวไม่ดูกูต้อง Hipster ดูแต่หนังอาร์ต คนดูที่ไม่ตั้งใจดู ไม่ให้เกียรติกับการดูหนัง ก้มเล่นโทรศัพท์ มาดูตามเค้าไม่ได้อยากมาดูจริงๆ
ด้านเทคนิคหนังแบบ Long Take ที่เคยดูก็มีแค่ตระกูล Before ภาคแรกถ้าจำไม่ผิดน่าจะ Sunrise แค่ภาคเดียวแล้วก็ไม่ได้ชอบสักเท่าไหร่ ส่วนตัวไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรมากเรื่องมุมกล้อง แต่ที่รู้สึกได้คือการตัดสลับมุมมองจากบุคคลที่สาม มา เป็น บุคลที่หนึ่ง ผ่านช็อต Long Take ทำให้หนังดำเนินเรื่องราวไปได้อย่างน่าสนใจ เมื่อดูจบก็สรุปได้ว่า ไม่เสียเวลาที่ดู

ปล. "พลังไม่ได้มีอยู่แค่ในยอดมนุษย์ คนธรรมดาก็มีได้เป็นตำนานได้ เพราะทุกชีวิตโหยหาและต้องการ การยอมรับไม่ในด้านใดก็ด้านหนึ่ง"
8/10
‪#‎คนเหงาเล่าหนัง‬

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น