ประวัติของวง Guns N Roses
ตำนานของ Guns N'Roses เกิดขึ้นในปี 1983 ที่ Los Angeles เมื่อ William Bailey หรือ Axl Rose ร้องนำ [ไม่รู้ทำไมนักดนตรีสมัยนั้นชอบตั้งชื่อกันขึ้นมาใหม่]ซึ่งเคยผ่านวง Rapidfire มาและ Jeffrey Dean Isabal หรือ Izzy Stradlin กีต้าร์ ซึ่งเคยอยู่กับวง Naughty Women มาก่อนซึ่งทั้งสองมาจากเมืองเดียวกันคือ Lafayette, Indiana. กำลังฟอร์มวงที่เค้าคิดว่าจะต้องเป็นวงร็อคที่เจ๋งที่สุดในโลกในนาม A.X.L.เปลี่ยนมาเป็น Rose และจบที่ Hollywood Rose ซึ่งมีสมาชิกผ่านเข้าออกมากมายอาทิเช่น Chris Weber, Rick Mars, Johnny Kreis, Andre Troxx ร่วมถึงสมาชิกของ LA.Guns เล่นดนตรีร็อคในแนวทางเดียวกับ Hanoi Rock, Motley Crue, Faster Pussycat ซึ่งช่วงนั้นแวดวงดนตรีร็อคใน L.A.กำลังคึกคักมีวงร็อคที่กำลังเกิดขึ้นมากมายที่พร้อมจะไขว่ขว้าความสำเร็จเหมือนๆพวกเค้าอีกเป็นหมื่นๆวง ...
ปี 1984 Izzy ขอแยกตัวไปอยู่กับวง London ส่วนตัว Axl ออกไปอยู่วงใหม่ชื่อ LA.Guns ส่วนทางด้าน Michael Andrew McKagan หรือ Duff McKagan ในขณะนั้นกำลังใช้ชีวิตนักดนตรีอย่างโชกโชนทั้งตีกลอง เล่นกีต้าร์ เล่นเบส กับวงหลายๆวงเช่น The Fastbacks, Silly Killers, the Fart
ช่วงสิ้นปี Hollywood Rose กลับมารวมตัวกันใหม่อีกและ Tracii Guns เข้ามาเล่นกีต้าร์ ย่างเข้าปีใหม่ Duff McKagan หันมาเล่นเบส แล้วได้รู้จักกับ Saul Hudson หรือ Slash และ Steven Adler เล่นดนตรีอยู่ในวงชื่อ Road Crew หรือวง Tidus Sloan เก่านั้นเอง Riff Guitar แรกของเพลง Paradise City ก็ออกมจากการด้นโชว์สดๆของ Slash นั้นตอนที่พวกเค้าพบกันครั้งนี้นั้นเอง กลับมาทางด้านของ AXl และ Izzy LA. Guns ตัดสินใจรวมวงกับ Hollywood Rose โดยมีสมาชิกคือ Axl Rose (vocals), Izzy Stradlin (guitar), Tracii Guns (guitar), Ole Beich (bass) and Rob Gardner (drums) ส่วนชื่อวงได้มาจากการรวมชื่อของสองวงนี้เข้าด้วยกันโชว์แรกเกิดขี้นที่ Dancing Waters in San Pedro, CA. หลังจากโชว์ที่ Timbers Club in Glendora, CA.Duff ได้เข้ามากระตุกเบสแทน Beich ทางด้าน Tracii Guns เหมือนรู้ทันนิสัยของ Axl จึงออกจากวงกลับมาทำ LA,Guns ใหม่ ทางด้าน Duff ซึ่งเคยเล่นกับ Road Crew อยู่จึงแนะนำ Slash ให้มาเล่นกับ Guns N' Roses ซึ่งก็ง่ายมากเพราะ Axl กับ Slash และ Izzy รู้จักคุ้นเคยและเคยเล่นด้วยกันมาอยู่แล้วส่วนมือมือกลอง Rob Gardner ซึ่งออกไปอยู่กับ LA.Guns ซึ่งตำแหน่งนี้ถูกแทนที่ด้วยซี้ของ Slash นั่นคือ Steven Adler อย่างไม่ต้องสืบและนี้คือ Line Up ที่สุดแสนจะ Classic หนึ่งของวงการ Hard Rock ยุค 80 หรือที่คนแก่แนวๆเค้าชอบเรียกว่า G N'R Classic Line Up |
ช่วงเดือน พค 85 G N'R ได้ออกทัวร์ชื่อ Hell Tour พวกเล่นโชว์เก็บเกี่ยวเคี่ยวกรำตัวเองพร้อมกับแต่งเพลงไปด้วยเหมือนเด็กร้อนวิชาบ้าพลังในระหว่างที่พวกเค้าโชว์นั้นเค้าได้มีเพลงอย่าง Welcome To The Jungle, Nightrain, It So Easy, Dont Cry, Paradise City อยู่ในมือแล้วรวมถึงเพลงเก่าจาก Hollywood Rose ที่นำมาขัดเกลาใหม่อย่าง My Way - Your Way ซึ่งกลายเป็น Anything Goes และ Wreckless เป็น Reckless Life ทางด้านเพลงคัฟเวอร์พวกมันก็เลือกได้เท่และเก๋ไม่หยอกเพลงของวงอย่าง Aerosmith ("Mama Kin"), Elvis Presley ("Heartbreak Hotel") and The Rolling Stones ("Jumping Jack Flash") ถูกนำมาประเคนในโชว์เพื่อเอ็นเตอร์เทนความมันส์ความเร้าใจให้กับผู้ที่เข้าโชว์ไปร่วมสดับรับฟังเมามันส์ไปโชว์กับพวกมันพร้อมกับการกลับบ้านที่ Sunset Boulevard ที่พวกมันตั้งชื่อไว้ว่า The Hell House ด้วยสภาพยากจกต้องยังชีพด้วย ไวน์ถูกและขนมปัง biscuits แต่สิ่งที่มันได้มานั้นคือโชว์ช่วงปลายปีพวกมันได้รับความนิยมอย่างมาก คลับที่พวกมันไปแสดงได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลาม โดยที่คลับเหล่านั้นก็ต้อนรับศิลปินระดับโลกมาแล้วมากมาย คลับพวกนี้ก็คือ Whisky a Go-Go, Roxy, The Water Club, จากคำโปรยใน Flyer ที่โชว์ที่ Troubadour in Hollywood, CA. ทืั้เขียนไว้ว่า
The flyer for the show says: "Get Yourself Together, Drink Till You Drop, Forget About Tomorrow, Have Another Shot. Happy New Year! From the boys who brought you the most chaotic shows of 1985 คงทำให้หลายๆคนตระหนักอะไรได้ว่าหนึ่งว่าพวกมันเดินมาถูกทางแล้วและสองไอ้พวกนี้มันไม่ธรรมดาโว้ยย และแน่นอนเมื่อเริ่มดังก็จะเริ่มมีค่ายเพลงมาสนใจพวกมันก็ได้เซ็นสัญญากับ Geffen Record และพวกเค้าก็เริ่มทำอัลบั้มที่ Rumbo Studio สัญญาถูกร่างขึ้นในวันที่ 25 มีค.85 ซึ่งขณะนั้นวงบันทึกเสียงอัลบั้ม Appitite For Destruction ไปพร้อมเล่นโชว์ไปด้วยทั้งแบบเต็มวงและอคูสติกโชว์ พร้อมกับเพลงใหม่ๆอย่าง Sweet Child O' Mine," "Mr. Brownstone" and "Ain't Going Down" และได้เล่นเปิดให้วงมากมายอย่าง Cheap Trick, Rad Hot Chili Paper แต่ก็เหมือนกันตั้งแต่ยุคนั้นถึงยุคนี้ทางต้นสังกัดยังไม่ไว้ใจที่จะปล่อยอัลบั้มจึงลองวาง EP. 4 เพลงชื่อ Live ?!'@ Like A Suicide" ในนามสังกัด Uzi Suicide label.ของงทางวงออกมาก่อน 10000 Copy หน้าปกจำง่ายเป็นสัญลักษณ์แบบดั้งเดิมกับรูปของ Duff และ Axl ในวัยประทวนและจบปี 86ด้วยปาร์ตี้ที่ Cathouse in Hollywood, CA. ฉลอง Ep. Live ?!'@ Like A Suicide คลอดพร้อมกับอัลบั้ม Appitite บันทึกเสียงเสร็จเรียบร้อบอย่างสวยงามพร้อมโดยที่เส้นทางที่สวยงามราวกับว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบนั้นกำลังเข้ามาหาโดยที่วงยังไม่รู้ตัวว่าแต่ว่าคนไทยโบราณพ่อแก่แม่เฒ่ามักจะบอกเสมอว่าความสำเร็จมักมาเยือนพร้อมหายนะ.......
ติดตามต่อภาค 3 นะ
ติดตามต่อภาค 3 นะ
เซ็นสัญญากับ geffen ปี 86 ไม่ใช่เหรอ
ตอบลบ