22/3/54

วิธีเช็คว่าแบทหมดหรือปิดเครื่อง

วันนี้ขอขั้นเรื่องดนตรีไว้สักพักเปลี่ยนเป็นเรื่องเทคโนโลยีที่ต้องเจอกันอยู๋ในชีวิตประจำวันดีกว่าเผอิญว่าไดเไปอ่านเจอมาแต่ยังไม่ได้ลองเพราะแบทยังไม่หมดยังไงก็ลองเอาไปใช้ดูละกันนนะคือ เมื่อเรากดปิดเครื่อง ก่อนปิดเครื่องเครื่องจะส่งสัญญาณไปบอกระบบว่า "ฉันจะปิดเครื่องแล้วนะ" ผลที่เกิดก็คือ เมื่อโทรเข้าจะได้ยินคำว่า "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก" แต่ถ้าแบตหมดหรือไม่มีสัญญาณ เครื่องจะยังไม่ทันส่งสัญญาณไปบอกระบบ ผลที่เกิดคือ ระบบจะไม่รู้ว่า คุณปิดเครื่อง จึงทำการค้นหาสัญญาณ ทำให้เกิดช่องว่างที่เป็นเสียงเงียบอยู่ประมาณ 5-10 วินาที ก่อนที่จะได้ยินคำว่า "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก" ง่ายแค่นี่เองใช่มั้ยแหละจาก Tip ใน FB ของคุณ Aom Mo ยังไงก็ต้องไปลองดูกันนะว่าใช้ได้จจริงไหมส่วนตัวแล้วตอนปิดเครื่องเองก็เป็นแบบที่กล่าวไปจริงๆ [Dtac] ก็ลองดูละนะกันสำหรับสาวๆที่ชอบจับผิดแฟน แต่สำหรับหนุ่มๆจริงแล้วผมมีวิธีหลบหลีกที่เหนือชั้นกว่านี้แต่คุณต้องใช้ iPhone ส่วน BB หรือ Smartphone อื่นข้าพเจ้าไม่รู้เพราะจนอยู่ยังไม่มีปัญญาหามาครอบครองหลายเครื่องไว้วันหลังจะมาเเขียนต่อวันนี้เผ่นละ

10/3/54

กุหลาบปลายปืน 3

21 กรกฏาคม 1987 อัลบั้มแห่งประวัติศาสตร์ Appertite for Destruction ก็ออกวางจำหน่ายในอเมริกา และเดือนสิงหาคม ก็วางจำหน่ายที่อังกฤษตามคาดปกล็อตแรกโดนเซ็นเซอร์และถูกเรียกเก็บทันทีใน บางประเทศข้อหาไม่ผ่านตาผู้ประพฤติชอบตามศีลธรรมและมีอันจะกิน ใครที่ครอบครองไวนิลปกล็อตแรกรู้ตัวไว้เลยว่ามันมีข้ามากแต่ถ้าไม่อยากเก็บ ละก็เมล์มาขายผู้เขียนได้นะ
หลังจากที่วงปล่อยมิวสิควีดีโอตัวแรก Welcome To The Jungle พวกเค้าก็ดังระเบิดภายในชั่วข้ามคืน MTV ในยุคนั้นก็เหมือน Youtube ในสมัยนี้ ถือว่าเป็นสื่อที่มีความสำคัญมากสำหรับวงการดนตรีระหว่างการทัวร์ก็มีเหตุการณ์มากมายเช่น AXl พูดถึงร็อคสตาร์รุ่นเก่าก่อนที่กระแนะกระแหนพวกเค้าพี่แกเลยตอกกลับด้วยการพ่นเช่นประโยคนี้ people like Paul Stanley from Kiss can suck my dick! And some of these old guys, that say we're ripping them off, maybe they should listen to some of their earlier albums and remember how to play them"ก่อนที่จะเล่นเพลง Move To The City ในการแสดงที่ The Paradiso in Amsterdam, The Netherlands. และในการทัวร์นี้สมาชิกในวงเกือบทุกคนอยู่ในสภาวะหัวใจติดยาเสพติดจริงๆเรื่องนี้ก็เป็นปัญหาที่เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยตอนบันทึกเสียง Appitite  แล้วถึงขนาดว่ามีการตั้งกฏกันขึ้นมาว่าในห้องอัดห้ามมีอื่นใดนอกจาก บุหรี่ และ กาแฟ แต่หลังจากเสร็จงานแล้วก็ตัวใครตัวมันล่ะ ทั้งโปรดิวซ์เซอร์ และผู้จัดการวงก็ต่างรู้ว่าถ้าเป็นนองห้องอัดแล้วใครก็ยากที่จะเอาพวกตัวแสบพวกนี้อยู่ ซึ่งพวกมันขึ้นชื่อมากในเรื่อง เล่นหนัก ดื่มหนัก เสพหนัก ถ้าเจอวงที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนๆกันแล้วออกทัวร์ด้วยกันคงจะมีแต่เรื่องมันส์ๆเกิดขึ้นทุกนาที ต่อมาทางวงได้มีโอกาสได้รับเชิญไปออกรายการ MTV's Headbanger's Ball. ซึ่งพอจบรายการทางวงได้พังข้าวของและฉากซะเละคลิปนี้ยังหาชมได้ใน Youtube ในเดือน พ.ย. 87 G N'R ได้เล่นเปิดให้ Motley Crue เมื่อวงสไตล์เดียวกันมาเจอกันก็มันส์สิครับท่านในทัวร์นี้เองที่Slash กับ Steven Adler ได้ช่วย Nikki Sixx ให้รอดพ้นจากความตายที่เกิดจากอาการน็อคยาหรือโอเวอร์โดสเพราะเสพ โคเคน และ เฮโรอีน พร้อมกันมากเกินขนาดวงในเค้าว่ากันว่าหมอบอกว่า Nikki Sixx หัวใจหยุดเต้นไปสัพักแล้วแต่หมอเค้าปั๊มกลับมาให้เต้นใหม่อีกครั้ง คนพันธุ์ร็อคนี่มันอึดจริงๆ ในขณะที่ออกทัวร์อย่างโหมกระหน่ำอัลบั้ม Appertite for Destruction ก็เริ่มไต่ลำดับใน BillBoard ต้นปี 88 ทางวงบันทึกเสียงเพลงอย่าง "Patience", "Used To Love Her", "One In A Million", "Cornchucker" และเพลงเก่าในเวอร์ชั่นใหม่อย่าง "You're Crazy" ที่กะว่าจะนำไปอยู่ใน B-sides หรือไม่ก็ EP. ต่อมาทางวงได้เล่นเปิดให้ Iron Maiden วง NWOBHM ที่รอดและหลงเหลือมาถึงยุคนี้อย่างยิ่งใหญ่และเกรียงไกรซึ่ง Axl และ Slash เคยพูดถึง Bruce Dickinson แบบเหน็บๆถึงในเรื่องเสื้อผ้าตอนที Bruce เดินเข้ามาที่ห้องแต่งตัวของ G N'R ด้วยสภาพขาเดฟเฮฟวี่เต็มสูบสไตล์ Iron Maiden ในยุคปลายยุค 80 แล้วถามทั้งสองว่าเป็นไงมั้งลุคฉันเท่ไหม ทั้งสองบอกไปว่า สวดยวดเลยลูดเพ่ แต่ในใจกลับหัวเราะและแอบขำในความเสี่ยวของไอ้หนุ่ม เฮฟวี่ ผู้พี่ในขระทัวร์นี้เองเพลงก็ทำหน้าที่ของมันไปตามระบบจน Sweet Child O'Mine ขึ้นอันดับหนึ่งของซิงเกิ้ล แต่ด้วยที่วงใช้ชชีวิตหนัก โชว์บางโชว์ต้องแคนเซิลเพราะ Axl ไม่มีเสียงที่ไหวพอจะร้อง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึง 23 กรกฤาคม 1988 อัลบั้ม Appitite For Destruction ก็ขึ้นไปจนถึงอันดับ 1 ของ BillBoard
ทางวงไม่รอช้าปล่อย Footage ของเพลง Paradise ต่อมาทันที และวงได้ไปเล่นในเทศการดนตรี Monster Of Rock ที่ Castle Donington, England แต่ด้วยการแสดงอย่างเมามันส์แฟนเพลงในแนวหน้าถูกชนกระแทก และเบียดจน เสียชีวิตสังเวยไปสองศพ ระหว่าง G N'R สำแดงความเมามันอยู่กลับมาที่อเมริกา เพลง "Welcome To The Jungle" ทำให้วงได้รับรางวัล The Best New Artist ที่งาน MTV's Video Music Awards โชว์ที่ Texas Jam in Irving นั้น Axl พอๆกับอุจจาระเพราะเค้าโดนโตเตยเข้าไปมากมายเท่านั้นยังไม่พอทางวงได้ขึ้นปกนิตยสาร Rolling Stone magazine's ฉบับที่ 539 ซึ่งเป็นนิตยสารดนตรีร็อคชั้นนำเหมือน Rokz นี่แหละแถมทุกวันนี้หัวนี้ยังมีวางขายอยู่ซึ่งหน้าปกโปรยไว้ว่า Guns N' Roses Hard Rock Heroes วันที่ 30 พฤศจิกายน 1988 ทาง Geffen และทางวงก็ปล่อยอัลบั้มซึ่งเป็นงานรวมเพลงเก่าๆ ของพวกเค้า และเพลงที่เล่นในแบบ Acoustic ออกมาคือ Lies! The Sex, The Drugs, The Violence, The Shocking Truth แต่หลายๆ คนบอกว่ายาวฉิบหาย ก็เลยเปลี่ยนเป็น G N' R Liesความแรงไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะอัลบั้มนี้ขึ้นไปอยู่ในอันดับสองและ Appitite อยู่ในอันดับ 1 ซึ่งไม่มีศิลปินหน้าไหนเคยทำแบบนี้ได้เลยในยุค 80 แต่แล้วปัญหาก็ตามมาเพลง One In A Million โดนกล่าวหาว่ามีเนื้อหาส่อ เสียด ไปในทางเหยียดสีผิว และพวกรักร่วมเพศ แต่ไม่มีเหตุการไหนที่จะโด่งดังเท่าอันนี้ หลังจาก G N' R ได้รับรางวัล Best Heavy Metal/Hard Rock Video ได้จากเพลง Sweet Child O' Mine ด้านห ลังเวที Vince Neil ต่อยปาก Izzy จนปากของ Izzy แหกเพราะแหวนที่นิ้หลังจากนี้ทางวงได้เล่นเปิดให้ Rollnig Stone แค่โชว์แรกก็เป็นเรื่องแล้ว Axl พูดออกไมค์ว่า "I hate to do this on stage. But I tried every other fucking way. And unless certain people in this band get their shit together, these will be the last Guns N' Roses shows you'll fucking ever see. Cause I'm tired of too many people in this organization dancing with Mr. Goddamn Brownstone."หลายคนอาจจะงงว่า  Mr.Brownstone คืออะไรแน่นอนมันคือชื่อเพลงหนึ่งเพลงในอัลบั้มแรกของวงคือ Appitite แต่มีหนังสือบางเล่นที่แปลเพลงในสมัยก่อนแปลเพลงนี้แล้วความหมายเพี้ยนไปหมดเพราะไม่เข้าใจในความหมายของคำนี้ซึ่งคำๆนี้หมายความว่า เฮโรอีน ซึ่งเหมือนที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า แป๊ะ หรือ แค๊ป นั่นแหละ หลังจากโชว์นี้ Slash, Izzy และ Steven สัญญาว่าจะเลิกยาและเข้ารับการบำบัดจบปีนี้ไปอย่างไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่

9/3/54

กุหลาบปลายปืน 2

ประวัติของวง Guns N Roses

ตำนานของ Guns N'Roses เกิดขึ้นในปี 1983 ที่ Los Angeles เมื่อ William Bailey หรือ Axl Rose ร้องนำ [ไม่รู้ทำไมนักดนตรีสมัยนั้นชอบตั้งชื่อกันขึ้นมาใหม่]ซึ่งเคยผ่านวง Rapidfire มาและ Jeffrey Dean Isabal หรือ Izzy Stradlin กีต้าร์ ซึ่งเคยอยู่กับวง Naughty Women มาก่อนซึ่งทั้งสองมาจากเมืองเดียวกันคือ Lafayette, Indiana.  กำลังฟอร์มวงที่เค้าคิดว่าจะต้องเป็นวงร็อคที่เจ๋งที่สุดในโลกในนาม A.X.L.เปลี่ยนมาเป็น Rose และจบที่ Hollywood Rose ซึ่งมีสมาชิกผ่านเข้าออกมากมายอาทิเช่น Chris Weber, Rick Mars, Johnny Kreis, Andre Troxx ร่วมถึงสมาชิกของ LA.Guns เล่นดนตรีร็อคในแนวทางเดียวกับ Hanoi Rock, Motley Crue, Faster Pussycat ซึ่งช่วงนั้นแวดวงดนตรีร็อคใน L.A.กำลังคึกคักมีวงร็อคที่กำลังเกิดขึ้นมากมายที่พร้อมจะไขว่ขว้าความสำเร็จเหมือนๆพวกเค้าอีกเป็นหมื่นๆวง ...
          ปี 1984 Izzy ขอแยกตัวไปอยู่กับวง London ส่วนตัว Axl ออกไปอยู่วงใหม่ชื่อ LA.Guns ส่วนทางด้าน Michael Andrew McKagan หรือ Duff McKagan ในขณะนั้นกำลังใช้ชีวิตนักดนตรีอย่างโชกโชนทั้งตีกลอง เล่นกีต้าร์ เล่นเบส กับวงหลายๆวงเช่น The Fastbacks, Silly Killers, the Fart
ช่วงสิ้นปี Hollywood Rose กลับมารวมตัวกันใหม่อีกและ Tracii Guns เข้ามาเล่นกีต้าร์ ย่างเข้าปีใหม่ Duff McKagan หันมาเล่นเบส แล้วได้รู้จักกับ Saul Hudson หรือ Slash และ Steven Adler เล่นดนตรีอยู่ในวงชื่อ Road Crew หรือวง Tidus Sloan เก่านั้นเอง Riff Guitar แรกของเพลง Paradise City ก็ออกมจากการด้นโชว์สดๆของ Slash นั้นตอนที่พวกเค้าพบกันครั้งนี้นั้นเอง กลับมาทางด้านของ AXl และ Izzy LA. Guns ตัดสินใจรวมวงกับ Hollywood Rose โดยมีสมาชิกคือ Axl Rose (vocals), Izzy Stradlin (guitar), Tracii Guns (guitar), Ole Beich (bass) and Rob Gardner (drums) ส่วนชื่อวงได้มาจากการรวมชื่อของสองวงนี้เข้าด้วยกันโชว์แรกเกิดขี้นที่ Dancing Waters in San Pedro, CA.  หลังจากโชว์ที่ Timbers Club in Glendora, CA.Duff ได้เข้ามากระตุกเบสแทน Beich ทางด้าน Tracii Guns เหมือนรู้ทันนิสัยของ Axl จึงออกจากวงกลับมาทำ LA,Guns ใหม่ ทางด้าน Duff ซึ่งเคยเล่นกับ Road Crew อยู่จึงแนะนำ Slash ให้มาเล่นกับ Guns N' Roses ซึ่งก็ง่ายมากเพราะ Axl กับ Slash และ Izzy รู้จักคุ้นเคยและเคยเล่นด้วยกันมาอยู่แล้วส่วนมือมือกลอง Rob Gardner ซึ่งออกไปอยู่กับ LA.Guns ซึ่งตำแหน่งนี้ถูกแทนที่ด้วยซี้ของ Slash นั่นคือ Steven Adler อย่างไม่ต้องสืบและนี้คือ Line Up ที่สุดแสนจะ Classic  หนึ่งของวงการ Hard Rock ยุค 80 หรือที่คนแก่แนวๆเค้าชอบเรียกว่า  G N'R Classic Line Up

ช่วงเดือน พค 85 G N'R ได้ออกทัวร์ชื่อ Hell Tour   พวกเล่นโชว์เก็บเกี่ยวเคี่ยวกรำตัวเองพร้อมกับแต่งเพลงไปด้วยเหมือนเด็กร้อนวิชาบ้าพลังในระหว่างที่พวกเค้าโชว์นั้นเค้าได้มีเพลงอย่าง Welcome To The Jungle, Nightrain, It So Easy, Dont Cry, Paradise City อยู่ในมือแล้วรวมถึงเพลงเก่าจาก Hollywood Rose ที่นำมาขัดเกลาใหม่อย่าง My Way - Your Way  ซึ่งกลายเป็น Anything Goes และ Wreckless เป็น Reckless Life ทางด้านเพลงคัฟเวอร์พวกมันก็เลือกได้เท่และเก๋ไม่หยอกเพลงของวงอย่าง Aerosmith ("Mama Kin"), Elvis Presley ("Heartbreak Hotel") and The Rolling Stones ("Jumping Jack Flash") ถูกนำมาประเคนในโชว์เพื่อเอ็นเตอร์เทนความมันส์ความเร้าใจให้กับผู้ที่เข้าโชว์ไปร่วมสดับรับฟังเมามันส์ไปโชว์กับพวกมันพร้อมกับการกลับบ้านที่ Sunset Boulevard ที่พวกมันตั้งชื่อไว้ว่า The Hell House ด้วยสภาพยากจกต้องยังชีพด้วย ไวน์ถูกและขนมปัง biscuits แต่สิ่งที่มันได้มานั้นคือโชว์ช่วงปลายปีพวกมันได้รับความนิยมอย่างมาก คลับที่พวกมันไปแสดงได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลาม โดยที่คลับเหล่านั้นก็ต้อนรับศิลปินระดับโลกมาแล้วมากมาย คลับพวกนี้ก็คือ Whisky a Go-Go, Roxy, The Water Club, จากคำโปรยใน Flyer ที่โชว์ที่ Troubadour in Hollywood, CA. ทืั้เขียนไว้ว่า
The flyer for the show says: "Get Yourself Together, Drink Till You Drop, Forget About Tomorrow, Have Another Shot. Happy New Year! From the boys who brought you the most chaotic shows of 1985 คงทำให้หลายๆคนตระหนักอะไรได้ว่าหนึ่งว่าพวกมันเดินมาถูกทางแล้วและสองไอ้พวกนี้มันไม่ธรรมดาโว้ยย และแน่นอนเมื่อเริ่มดังก็จะเริ่มมีค่ายเพลงมาสนใจพวกมันก็ได้เซ็นสัญญากับ Geffen Record และพวกเค้าก็เริ่มทำอัลบั้มที่ Rumbo Studio สัญญาถูกร่างขึ้นในวันที่ 25 มีค.85  ซึ่งขณะนั้นวงบันทึกเสียงอัลบั้ม Appitite For Destruction ไปพร้อมเล่นโชว์ไปด้วยทั้งแบบเต็มวงและอคูสติกโชว์ พร้อมกับเพลงใหม่ๆอย่าง Sweet Child O' Mine," "Mr. Brownstone" and "Ain't Going Down" และได้เล่นเปิดให้วงมากมายอย่าง Cheap Trick, Rad Hot Chili Paper แต่ก็เหมือนกันตั้งแต่ยุคนั้นถึงยุคนี้ทางต้นสังกัดยังไม่ไว้ใจที่จะปล่อยอัลบั้มจึงลองวาง EP. 4 เพลงชื่อ Live ?!'@ Like A Suicide" ในนามสังกัด Uzi Suicide label.ของงทางวงออกมาก่อน 10000 Copy หน้าปกจำง่ายเป็นสัญลักษณ์แบบดั้งเดิมกับรูปของ Duff และ Axl ในวัยประทวนและจบปี 86ด้วยปาร์ตี้ที่ Cathouse in Hollywood, CA. ฉลอง Ep. Live ?!'@ Like A Suicide คลอดพร้อมกับอัลบั้ม Appitite บันทึกเสียงเสร็จเรียบร้อบอย่างสวยงามพร้อมโดยที่เส้นทางที่สวยงามราวกับว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบนั้นกำลังเข้ามาหาโดยที่วงยังไม่รู้ตัวว่าแต่ว่าคนไทยโบราณพ่อแก่แม่เฒ่ามักจะบอกเสมอว่าความสำเร็จมักมาเยือนพร้อมหายนะ.......
ติดตามต่อภาค 3 นะ