1/12/54

The Mousses - 20 Something

'THE MOUSSES' กับอัลบั้มแรกในชีวิต

บทความนี้จะอธิบายทุกแทรคของอัลบั้มแรกในชีวิตของข้าพเจ้าโดยสังเขปและง่ายต่อการทำความเข้าใจโดยการไม่ใช้ศัพท์ทางดนตรีที่ยากเกินไปจนคนทั่วไปไม่อาจจะเข้าใจมันได้เชิญอ่านครับ


"เจ้าชายกับเจ้าหญิง" เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ทำให้ The Mousses กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยซาวด์ดนตรีและเนื้อหาที่เข้าใจง่ายขึ้น และแต่งมาจากความรู้สึกส่วนลึกของ ความเป็นจริงของชีวิต ถ้าเรารักใครสักคนหนึ่ง เราก็อยากให้เขามีความสุขที่สุด… แต่ในเมื่อความเป็นจริงเราไม่สามารถทำได้อย่างที่มันควรจะเป็น เราก็ควรปล่อยให้เขาไปอยู่กับคนดีที่สามารถดูแลได้ดีกว่า…เป็นการดีไซน์การ จัดวางเครื่องดนตรี สไตล์ Vintage ต่างๆ เพื่อเล่าเรื่องตามบรรยากาศของเพลง เป็นเพลงที่มีกลิ่นซาวด์ดนตรี ยุค70's เช่น การใส่ Music Box เล่นไปพร้อมกันกับ Acoustic Guitar  เพื่อให้อารมณ์คล้อยตามเหมือนการเล่านิทาน…

"...บ้างไหม? (จุด จุด จุด บ้างไหม)" เพลงฟังสบายๆ  เข้าใจง่าย  และยังคงถ่ายทอดเนื้อหาเป็น Positive Thinking พูดถึงคนรัก คิดถึงคนรักที่อยู่ไกลกัน ไม่ได้เจอกัน อยากจะถามเธอว่าคิดถึงกัน…บ้างไหม   อยากจะกอดฉัน…บ้างไหม เธอเมื่อยรึเปล่าฉันก็จะนวดให้  เพราะฉันคิดถึง อยากกอดและอยากนวดให้เธอ…ยังคงยึดการทำเพลงแบบเดิมที่ฟังง่าย ใช้เอฟเฟค Analog จะทำให้เพลงดู Vintage  ซึ่งเราก็ใช้แบบ Analog มาตั้งแต่เพลงเจ้าชายกับเจ้าหญิงแล้ว และเพลงเจ้าชายกับเจ้าหญิงเราใช้มิวสิคบอกเข้ามาเพื่อเพิ่มมิติของเพลง เพลงนี้ The Mousses ได้ทำ Free Hugs กับแฟนๆเพื่อให้ทุกคนได้รับพลังความรักจากหนุ่มๆ The Mousses ไปเต็มๆ

"สอง เราตราบชั่วนิจนิรันดร์" ในขณะที่ทุกๆอย่างกำลังเดินไปข้างหน้า แต่สิ่งเดียวที่มันกลับถอยหลัง และกำลังหยุดลง คือ หัวใจของผู้ชายคนนี้ที่มันร้องบอกกับตัวเองว่า ผมเจอแล้วกับผู้หญิงคนนี้ ผมพอแล้ว นี่คือสิ่งที่แสนดีที่สุดในชีวิต และสัญญาว่าจะรักเธอไปจนตราบชั่วนิจนิรันดร์ เป็นเพลงที่มีซาวด์ดนตรี indy pop และโดดเด่นด้วยการเล่นโน้ตพร้อมกันของกีต้าร์และสตริง มีสแนร์แบบวินเทจ และมีเมโลดี้ที่สละสลวยมากๆ

"ท้อ" เพลงนี้พูดถึงในช่วงเวลาที่กำลังสิ้นหวัง อ่อนแอ เป็นคำพูดที่เก็บเอาไว้เตือนตัวเองเสมอว่า อย่าเพิ่งยอมแพ้ อย่าไปท้อ เหมือนเป็นการให้กำลังใจตัวเองในวันที่หมดแรงด้วย ให้ลุกขึ้นมาก้าวเดินต่อไป ให้ถึงจุดหมายที่เรากำลังจะไป เพลงนี้สมาชิกในวงมีท่อนร้องกันทุกคนเพื่อรวมพลัง และเป็นกำลังใจ ให้กับคนที่กำลังท้ออยู่

"ลัก" เพลงนี้พูดถึงการสูญเสียคนรักแบบไม่รู้ตัว…อยู่ๆวันหนึ่งคนรักเกิดหายตัวไป  ทำให้คิดไปต่างๆนานา ถึงสาเหตุที่เขาหายไป กุญแจของเพลงนี้ คือการเล่าเรื่องโดยผ่านการเปรียบเทียบในเพลง ที่เธอหายไปน่ะ…“โดนลักพาตัว หรือ เต็มใจไปกับเขา” กันแน่และไม่ว่าเขาจะหายไปเพราะสาเหตุใด ฉันก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอ คนนั้นกลับมา…เป็นซาวด์วินเทจเหมือนเดิม เพิ่ม ริน มือคีย์บอร์ดเข้ามาเป็นสมาชิกในวง มีการนำอคูสติคแกรนด์เปียโน  มาใช้ในเพลงเพื่อรับกับสไตล์ BalladRock ส่วนการร้องในเพลงนี้มีการพัฒนาอารมณ์เป็นช่วง จะเป็นอย่างไรต้องลองฟังกันดู

"แม้เธอจะน้อย" เพลงนี้บาส(มือเบส) เขียนขึ้นมาให้กับคนที่รัก เพื่อที่จะบอกว่า “ไม่ว่าเวลาหรือความรักของเธอที่มีให้ จะน้อยเพียงไหน แต่ผมก็จะรู้สึกกับเธอเหมือนเดิม” และความรู้สึกนี้บาสจึงได้รับหน้าที่นักแต่งเพลงและยังรับบทบาทเป็นนักร้อง ในเพลงนี้ด้วยส่วนซาวดนตรีเพลงนี้เป็นเพลงสไตล์อเมริกัน ฮาร์ดร็อคแบบดิบๆ และเป็นเพลงที่หนักที่สุดในอัลบั้ม

"โปรด" ณ วันนี้ที่ไม่มีเธออยู่ข้างๆเหมือนเดิม สิ่งเดียวที่ไม่เคยได้บอก และอยากจะบอกกับเธอในวันนี้คือ “รักของผมนั้นยังคงอยู่ ยังอยากบอกเธอเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีวันเหมือนเดิม ทั้งๆที่ก็อยากให้กลับมารักกันเหมือนเดิมเหลือเกิน” ได้แต่อ้อนวอนกับท้องฟ้าและดวงดาวให้เธอกลับคืนมาในสักวัน...เพลงนี้เป็นการ ทดลองที่จะทำเพลงสไตล์ ชิลเอ้า ในแบบ เดอะมูส มีทั้งกลองที่ใช้ไม้แส้ เสียงทรัมเป็ต โซโล่ เสียงfender rhodes piano

"จูบสุดท้าย" เนื้อหาและความหมาย…ในเหตุการณ์ของคนที่เลิกรากันไป บ้างก็จากกันไม่ดี บ้างก็ประชดประชัน บ้างก็แค้นฝังใจกันไป มันจะกลายเป็นความเจ็บปวดของทั้ง 2 ฝ่าย เราเลยเลือกที่จะขอ “จูบสุดท้าย” จากคนที่รัก ถือเป็นคำขอครั้งสุดท้ายก่อนจะจากกันไป มันน่าจะเป็นความทรงจำที่ดีต่อกันและกันมากกว่า เป็นเพลงมีจังหวะที่ทำให้ทุกคนขยับไปกับพวกเราได้  เสียงออดอ้อนที่ถือเป็นคำขอและอ้อนวอนให้สมกับเป็น “จูบสุดท้าย” จริงๆ เพลงนี้มีการปรับเปลี่ยนแนวมาเป็นยุค80'sอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องของการเรียบเรียง การใช้เสียงเครื่องดนตรี และกลองโดยเฉพาะกับคีย์บอร์ดที่ใช้ซาวด์8บิทจากยุคนั้น มาใช้กับเพลงนี้อย่างเต็มที่

"Tears and Travel" Feat. ออน ละอองฟอง เพลงนี้เป็นเพลงคู่ซึ่งในตอนแรกทางวงก็ได้คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นใคร ที่จะมาร้องคู่กับแอร์ดี สุดท้ายก็ได้ ออน นักร้องนำวงละอองฟองมาร้อง Feat ด้วยน้ำเสียงและคาแรคเตอร์ของออนทำให้เพลงนี้มีมิติมากขึ้น  เนื้อหาของเพลง...ผู้ชายคนหนึ่งได้ปลอบใจผู้หญิงที่แอบชอบมานาน ซึ่งผู้หญิงคนนี้อยากจะลืมคนรักเก่า และอยากจะลืมเรื่องราวที่ผ่านมา อยากเดินทางไปที่ต่างๆเพื่อลืม โดยที่มีเราไปเป็นเพื่อนคอยปลอบ คอยซับน้ำตาให้เป็นเพลงสไตล์โฟล์คร็อค เพลงนี้ได้มีการทดลองใช้เมโลเดี้ยน และมีการเล่นสไตล์ mute เบส

"ชีวิตที่เคยมีเรา" เป็นเพลงที่จ๊ะได้แต่งให้กับคุณพ่อที่ล่วงลับไปแล้ว “ถึงแม้ว่าเราไม่อาจจะฝืนโชคชะตาไว้ได้ แต่ยังไงก็ตาม ผมดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของท่าน แค่เราได้มีชีวิตและเกิดมาอยู่ด้วยกัน มันก็คือความสุขที่สุดของผมแล้ว” จ๊ะได้ร้องผ่านเพลงนี้ เพลงนี้เป็นเพลงสไตล์บัลลาดร็อคที่โดดเด่นด้วยโครงสร้าง song form แบ่งชัดเจนระหว่างช่วงแรกที่บรรเลงด้วย grand piano กับครึ่งหลังที่เป็นดนตรีที่หนักหน่วง

"สราญ" พูดถึงมุมมองการใช้วิถีชีวิตแบบสุขนิยม   โดยใช้ความรักเป็นตัวนำทาง    โลกสมัยนี้วุ่นวายมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์เกิดขึ้น  เครียดบ้างอะไรบ้าง  พวกเราThe Mousses เลยอยากให้ทุกคนรักกันมีความสุข สราญ กัน Sound ดนตรีเพลง “สราญ”?เป็นสไตล์ผสมระหว่างเพลงป๊อบยุค70's กับสไตล์ดนตรีแบบโพสท์พั้งค์ยุค 80 's  ส่วนในด้านเมโลดี้จะมีมุมมองและความคิดลักษณะแบบฮิปปี้จากยุค70's มีการประสานเสียงและการร้องสวนกันแบบนั้น






“TWENTYSOMETHING”
…หลายๆคนพอถึงช่วงอายุ 20 มันเป็นช่วงเวลา ที่ต้องค้นหาตัวเอง ว่าชีวิตจะเดินไปทางไหน บางคนอาจเจอเร็ว บางคนอาจต้องใช้เวลาก็เช่นกัน....ถึงเวลาที่พวกเขาต้องกำหนดชีวิตของตัวเอง ในการเดินทางค้นหาความต้องการ ความรัก ความฝัน พวกเราค้นหา และทุ่มกับสิ่งที่ “ใช่” มาเป็นระยะเวลา 4 ปี ในการทำสิ่งที่ตัวเองรัก นั่นก็คือการเล่นดนตรี เมื่อเป็นเส้นทางที่เลือก ทุกคนก็ต้องบ่มและฝึกตัวเองมากมายหลายอย่าง และกว่าจะเป็นวง The Mousses ในวันนี้ จริงๆแล้วทางเดินมีหลายเส้นทาง เราเลือกเดินไปทางไหนก็ได้ แต่การค้นหาในสิ่งที่ตัวเองชอบ สิ่งที่ตัวเองฝัน สิ่งที่ตัวเองต้องการและอยากจะเป็น ฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ถึงจุดหมาย มันจะมีค่าและก็ภูมิใจกับที่นั้นที่สุด


ดาวน์โหลดเพลงของพวกเราได้ที่ โทร *1230023 แล้วกดโทรออก อย่ากดวางหูล่ะ